User:Yosakrai/sandbox
สุขวิช รังสิตพล ( ไทย : สุขวิช รังสิตพล RTGS : สุขวิช รังสิตพล ; เกิดเมื่อ 5 ธันวาคม 2478) นักรปฏิรูปการศึกษาชาวไทย นักบริหาร และนักการเมือง เขาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ระหว่างปีพ.ศ. 2537 และ พ.ศ. 2539-2540 และ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระหว่าง ปี พ.ศ. 2538 ถึง 2540 [1]
[2]
ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
รังสิตพลได้วางเเผนการศึกษาในประเทศไทยโดยมีเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษาคือ ต้องการให้คนไทยตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของตนเอง และร่วมมือรวมใจกันพัฒนาประเทศชาติ เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองโลก
การปฏิรูปการศึกษา2538 นับเป็นวาระแห่งชาติหลังจาก 100 ปีของการศึกษาภายใต้ระบบปัจจุบัน
ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา
รังสิตพลสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี 2503 และหลักสูตรการพัฒนาการจัดการของสถาบันการจัดการแห่งเอเชียกรุงมะนิลาในปี 2519
เขาเริ่มทำงานให้กับคาลเท็กซ์ออยล์ประเทศไทยในปี 2504 จนกระทั่งดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการผู้จัดการของบริษัท ในช่วงต้นทศวรรษ1990
การทำงานการเมือง ปี2530 รังสิตพลดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา และ ปี2534สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติรวมทั้งสมาชิกวุฒิสภาอีกครั้งในปี2535
ปี 2536 ถึง 2537 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประธานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก หรือ คจร.
ในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เขาเสนอแผนแม่บทสำหรับแก้ไขปัญหาจราจร ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยแยกเป็น ถนนขนรถ 300 กิโลเมตรและ รถขนคน MRT 300 กิโลเมตร
ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ การทางพิเศษฯสร้างทางด่วนรามอินทราทางด่วนสายแรกของไทยไม่มีสัมปทานผูกพันธ์ ส่งผลให้ราคาถูกกว่าทางด่วนขั้นที่2 หลายเท่าตัวระยะเวลาดำเนินการสั้น และมีทางเลียบด่วนไว้บริการประชาชนผู้ไม่มีธุระเร่งด่วน ทางเลียบด่วนเป็นถนนที่สวยที่สุดของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน นับตั้งแต่สร้างเสร็จในเวลาเพียง10เดือน ในห้วงเวลา20ปีนี้ถือว่าเป็นทำเลซึ่งมาแรงที่สุดชองกรุงเทพมหานคร
ทางด่วนบางนา เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายภาคอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(ชลบุรี และระยอง) นอกจากจะราคาถูกลงกว่าการให้สัมปทานแล้ว ระยะเวลาดำเนินการน้อยลงมากเพราะใช้เทคโนโลยีในการหล่อคอนกรีต มีผลให้วงการก่อสร้างของไทยพัฒนาเป็นสำดับต้นๆชองโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ ในขณะเดียวกันทางด่วนบางนาได้รับการบันทึกเป็นทางสะพานยาวที่สุดในโลกระหว่างปี 2543-2553 มีผลให้ชาวต่างชาติเลือกมาเยือนกรุงเทพมหานคร เเทนเมืองอื่นๆซึ่งมีวัฒนธรรมร่วมกับประเทศไทยในดินแดน อุษาอาคเนย์
ปี 1994 รังสิตพล ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของ ชวน หลีกภัย 1 ได้จัดตั้งทีมเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร ร่วมกับศรีเมือง รองนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังธรรม และ สุรพงษ์ชัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อผลักดันแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทั่วทั่วประเทศ และทางด่วนระหว่างเมือง โดยมีผลงานเป็นรูปธรรมดังนี้
รถไฟฟ้าใต้ดิน (กรุงเทพฯ) ระบบขนส่งมวลชนใต้ดิน 300 กิโลเมตร ขององค์กรรถไฟฟ้ามหานคร MRT รถไฟฟ้าบีทีเอส ของกรุงเทพมหานคร BTS
3) โครงการรถไฟความเร็วสูง(ประเทศไทย)2537 และทางด่วนเชื่อมระหว่างเมือง
4) โครงการสปอร์ตคอมเพล็กซ์โดยองค์การรถไฟฟ้ามหานครจะสร้างเองเพื่อลดต้นทุน http://www.rangsun.econ.tu.ac.th/data/06/03-41/12-03-%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C.pdf และให้ชาวสลัมใต้ทางด่วนกรุงเทพมหานครได้ อยู่ฟรีหลังจากจบ การแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13
ในการเลือกตั้งทั่วไปในไทย พ.ศ. 2538 เขารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ หลังจากการเลือกตั้งเขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา และเสนอให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ หลังจากรับตำแหน่งได้ประกาศให้สถานศึกษาเขียนบัญญัติ10ประการติดไว้ เพื่อปฏิบัติตามทั่วประเทศ
หลังจาก150วันในการลงพื้นที่ทั่วประเทศ ตื่นตี3 เดินทางตี4 ทำงานตี5 https://drive.google.com/file/d/1koBrisaqUuQy33QBcQWKHNMe-VMFGrr7/view? ค้นพบว่ามีเด็กไทย 4.35 ล้านคน อายุ 3-17 ปีจากครอบครัวรายได้น้อยตกหล่นอยู่นอกระบบการศึกษาทั่วประเทศ
1995 การ ปฏิรูปการศึกษาสิทธิมนุษยชน ใน ประเทศไทย
1995 การปฏิรูปการศึกษาด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
[edit]กรกฎาคม พ.ศ. 2538 รังสิตพลได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เขาตระหนักว่าการปฏิรูปการศึกษามีความสำคัญ สถานการณ์คือเด็กอายุ 3-17 ปีไม่สามารถรับเข้าเรียนที่สถาบันการศึกษาของรัฐบาลได้ [13]ในหนังสือเก่า แรงงานไทยกว่า 77 % มีเพียงการศึกษาระดับประถมศึกษา รังสิตพลในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ริเริ่มการปฏิรูปการศึกษาสำหรับเด็กไทยทุกคน ( การศึกษาด้านสิทธิมนุษยชน ) ภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มคุณภาพการศึกษาตั้งแต่ปี 2538 เพื่อบรรลุความเป็นเลิศทางการศึกษาภายในปี 2550 [14] [15] แนวทางการดำเนินงานที่มีอยู่ได้รับการแก้ไขและแก้ไขเพื่อบรรเทาหรือขจัดปัญหาและยกระดับคุณภาพการศึกษาจนบรรลุความเป็นเลิศทางการศึกษาในปี 2550 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2538 กิจกรรมได้ดำเนินการในสี่ด้านหลัก: · การปฏิรูปโรงเรียน ได้พยายามยกระดับคุณภาพการศึกษาในทุกระดับและทุกประเภทของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา มีการขยายขอบเขตการศึกษา · การปฏิรูปครู การอบรมและการจัดหาครูได้รับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนและทั่วถึงทั้งในโรงเรียนของรัฐและเอกชน ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง · การปฏิรูปหลักสูตร การปฏิรูปหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นไปอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกประเภทและทุกระดับ · การปฏิรูปการปกครอง สถาบันการศึกษาได้รับอำนาจในการตัดสินใจด้านการบริหารและให้บริการด้านการศึกษาที่เหมาะสมซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตและเงื่อนไขท้องถิ่นมากที่สุด องค์กรระดับจังหวัดได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่ออำนวยความสะดวกในขณะที่มีส่วนร่วมส่วนตัวของครอบครัวและชุมชนได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน [16] ตามรายงานของยูเนสโก การปฏิรูปการศึกษาในปี 2539 ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ 1) การศึกษาฟรี 12 ปี สำหรับเด็กทุกคน นโยบายนี้รวมอยู่ในแผนพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจฉบับที่ 8 และต่อมาเพิ่มในรัฐธรรมนูญ 2540 2)ความก้าวหน้าทางวิชาชีพจากครูระดับ 6 เป็นครูระดับ 7 โดยไม่ต้องส่งผลงานทางวิชาการเพื่อพิจารณาได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทย 3) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้รับการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศและ สามารถ ใช้คอมพิวเตอร์ได้ 4) ความก้าวหน้าทางวิชาชีพจากครูระดับ 6 เป็นครูระดับ 7 โดยไม่ต้องส่งผลงานทางวิชาการเพื่อพิจารณาได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทย 5) งบประมาณการศึกษาเพิ่มขึ้นจาก 133 พันล้านบาทในปี 2539 เป็น 163 พันล้านบาทในปี 2540 (เพิ่มขึ้น 22.5%) 6) มีโรงเรียนประมาณ 20000 แห่งที่อยู่ระหว่างการปฏิรูปโครงการในปี 2539 พวกเขาต้องซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนและปรับปรุงสภาพแวดล้อม [17] [18]พวกเขายังสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารและพัฒนาโรงเรียน (19) รังสิตพล กล่าวเปิดงานและแถลงข่าว ในตอนเริ่มต้น องค์ประกอบสำคัญที่จะต้องพิจารณาเพื่อการปฏิรูปการศึกษาคือระบบการจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจการบริหารจะต้องเปลี่ยนไปเป็นหน่วยงานท้องถิ่น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการบริหารโรงเรียนเป็นหลัก เราปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่รู้ความต้องการด้านการศึกษาของคนในท้องถิ่นมากขึ้นคือคนที่ทำงานและอาศัยอยู่ในชุมชนนั้น (20) ประเทศไทยได้ดำเนินการตามนโยบาย School-based Management (SBM) ในปี 2540 เพื่อเอาชนะวิกฤตที่ลึกซึ้งในระบบการศึกษา [21] จัดตั้งสภาการศึกษาจังหวัดที่มีประสิทธิภาพด้วยสมาชิกในชุมชนที่เข้มแข็ง วัตถุประสงค์ของการกระจายอำนาจคือเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการศึกษาตามความจำเป็น ควรมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างตัวแทนชุมชนและเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการกระจายอำนาจจะต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบระหว่างคำแนะนำของผู้แทนชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อแสดงถึงความต้องการและลำดับความสำคัญของท้องถิ่น[22] ธนาคารโลกรายงานว่าหลังจากวิกฤตการเงินในเอเชียในปี 2540รายได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นส่วนที่ยากจนที่สุดของประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากปี 2541 ถึง 2549 [23]ความยากจนทั่วประเทศลดลงจาก 21.3 เป็นร้อยละ 11.3 เขาได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในปี 2539 ซึ่งเป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งที่ 13 ของกรุงเทพมหานคร หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งของ New Aspiration สุกวิชช์เป็นรองนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของชวลิต ยงใจยุทธ อีกครั้งนอกเหนือจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO) รังสิตพลกลายเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรหลังจากที่นายกรัฐมนตรีลาออกในเดือนพฤศจิกายน 2540 [24] รังสิตพล พร้อมลูกสาว (ฐิตา รังสิตผล มานิตกุล) ชนะ การเลือกตั้งไทยปี 2544 เมื่อในปี 2545 NAP ได้รวมเข้ากับพรรคไทยรักไทยของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทักษิณ ชินวัตรรังสิตพลเดินตามเส้นทางนี้ แต่ธิตา รังสิตผล มานิตกุล ลูกสาวของเขา ไม่ได้เข้าร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน[25] การเลือกตั้งทั่วไปปี 2548 ดูบทความหลักที่: การเลือกตั้งทั่วไปของไทย พ.ศ. 2548 ผลที่ได้คือชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคไทยรักไทย [26] .เขาเป็นประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรม[27]ทหารรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ดูบทความหลักที่: รัฐประหาร พ.ศ. 2549 ในตอนเย็นของวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 นายกรัฐมนตรีไทยเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสหประชาชาติและกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์กองทัพบกเข้าควบคุมกรุงเทพฯ รังสิตพลถูกโค่นล้มด้วยการทำรัฐประหารโดยทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 พรรคไทยรักไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ซึ่งสั่งห้ามผู้บริหาร 111 คน รวมทั้งรังสิตพลออกจากการเมืองเป็นเวลาห้าปี ตามข้อกล่าวหาที่ผู้บริหารพรรคสองพรรค (รมว.กลาโหม ธรรมรักษ์ และ พงษ์ศักดิ์ รักตะพงศ์ไพศาล) ติดสินบนพรรคเล็กเพื่อลง สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2549 (28) หลังการเสียชีวิตของแม่ รังสิตผลได้เข้าบวชเป็นพระที่วัดในภาคเหนือของประเทศไทยเป็นเวลาหลายปี ตามธรรมเนียมของผู้ชายพุทธเกี่ยวกับการตายของญาติผู้ใหญ่ [29] === รางวัลและเกียรติประวัติ === พ.ศ. 2538 การปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย พ.ศ. 2539 "ระหว่างเดินทางไปฟิลิปปินส์ ฯพณฯ นายสุกวิช รังสิตผล ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก Philippine Normal University ความปรารถนาที่จะปฏิรูปการศึกษาและความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในการจัดการศึกษาได้รับการยกย่องอย่างสูง" [30] [31] [32] 1997 ACEID ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านการศึกษา[33] 2541 นวัตกรรมและข้อมูลการศึกษา[34] เหตุการณ์ 100 ล้านบาท เงิน 100 ล้านบาท เป็นเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (โครงการนายกรัฐมนตรี เฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2539) [35] (36) Computer Incedent รังสิตผล ถูกกล่าวหาโดย อาคม เอ็งชวน ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดกระบี่ ตอบโต้ข้อกล่าวหาด้วยการฟ้องหมิ่นประมาทนายอาคม และตำแหน่งของเขาได้รับความช่วยเหลือจากการพิจารณาของศาลในครั้งต่อๆ มา ซึ่งทำให้รัฐมนตรีพ้นความผิด เพราะเขาทำเพื่อลูกสาวที่เข้าร่วมพรรคฝ่ายค้าน [37] [38] เหตุการณ์สิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ในรายงานบางกอกโพสต์ สภาสถาบันราชภัฏ องค์การบริหารส่วนรวมของวิทยาลัยทุกแห่งของประเทศไทย ได้ประกาศว่าจะสั่งห้ามกลุ่มรักร่วมเพศเข้าเรียนในโรงเรียนฝึกหัดครูแห่งใดแห่งหนึ่งตามแนวคิดของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สุรพร ดนัยตั้งตระกูล. การประกาศดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและอีกหลายกลุ่มที่เรียกร้องให้มีการยกเลิกนโยบาย เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2540 ดนัยตั้งตระกูลเสนอให้สถาบันกำหนดเกณฑ์ใหม่เพื่อห้ามผู้ที่มี "บุคลิกไม่เหมาะสม" แต่ไม่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม เช่น รักร่วมเพศ [39] [40] ในฐานะที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองภายในของเขา เขาอาจใช้เหตุการณ์ต่อไปนี้เพื่อขับไล่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสุขุวิช รังสิตผล [41] [42] เหตุการณ์คอมพิวเตอร์ แก้ไข การจัดการตามสถานศึกษา (SBM) ในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นในปี 2540 ในระหว่างการปฏิรูปที่มุ่งเอาชนะวิกฤตที่ลึกซึ้งในระบบการศึกษา [43] [44] [45] [46]
หลังการเลือกตั้งในปี 2544 ทักษิณ ชินวัตรหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกลายเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคความทะเยอทะยานใหม่ได้เข้าร่วมรัฐบาลแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน. พรรคความทะเยอทะยานใหม่ถูกรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย ส่วนใหญ่จะเข้าร่วมพรรคไทยรักไทย (พรรครัฐบาล) กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยกเว้นเฉลิม อยู่บำรุงที่กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคมวลชน ชิงชัย มงคลธรรม </ref>
"นักข่าว" ไร้จรรยาบรรณเสนอข่าวอันเป็นเท็จต้องไปติดคุกหลายราย อย่างไรก้อดี เรื่องข่าวอันเป็นเท็จยังคงเกิดขึ้นในสังคมไทย และ สื่อได้รับการให้อภัย เรื่องคดีคอมพิวเตอร์ทิพย์ คดีนโยบายทิพย์ และ คดีบริจาคทิพย์เพราะเงิน1ร้อยล้าน เป็นเงินทำบุญของของตึกเฉลิมพระเกียรติ 6รอบ